วัดร้องแง เป็นวัดโบราณ สันนิษฐานว่าสร้างเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2310 โดยการนำของเจ้าหลวงเทพพญาเลนเจ้าช้างเผือกงาเขียว เดิมปกครองอยู่ที่เมืองลิน เป็นคนไทยกลุ่มหนึ่งที่พูดภาษาลื้อ เมืองลินอยู่ในเขตปกครองของแคว้นสิบสองปันนา มีพญาแสนเมืองแก้วเป็นผู้ปกครอง ต่อมาได้เกิดศึกสงคราม ศัตรูเข้ารุกรานเมืองจนกระทั่งพญาแสนเมืองแก้วต้านทานไม่ไหว เจ้าหลวงเทพพญารินเจ้าช้างเผือกงาเขียว จึงได้มาช่วยต้านทานทัพศัตรูไว้ พร้อมด้วยแม่ทัพนายกอง 4 นาย คือ ท้าวแก้วปันเมือง ท้าววรรณะ ท้าวเหล็กไฟ และท้าวเต๋อ แต่สู้ไม่ไหวจึงแตกทัพรวบรวมไพร่พลหนีมาพร้อมกับเสนาทั้ง 4 ถอยร่นลงมาจนถึงบริเวณใกล้กับลำน้ำล่องแง (ใกล้ลำน้ำมีต้นแงซึ่งมีลักษณะผลคล้ายกับผลส้มจึงเรียกว่าลำน้ำล่องแง) ซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์จึงตั้งชื่อหมู่บ้านตามชื่อลำน้ำ ต่อมาการเรียกผิดเพี้ยนไป จึงกลายเป็นบ้านร้องแง และเมื่อสร้าง วัดจึงได้ใช้ชื่อหมู่บ้านเป็นชื่อวัดไปด้วย วัดร้องแง ปัจจุบันได้ขึ้นทะเบียนเป็นวัดเก่าแก่ของเมืองน่านแล้วเมื่อปี พ.ศ.2310 และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2470
      เมื่อปี 2550 วัดร้องแงได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี
เป็นรางวัลอาคารอนุรักษ์ศิลปะสถาปัตยกรรมดีเด่น ประเภทปูชนียสถานและวัดวาอาราม โดยสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์
พระวิหารวัดร้องแง
พระวิหารวัดร้องแง มีรูปแบบสถาปัตยกรรมเป็นแบบพื้นถิ่น สกุลช่างน่าน สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นฝีมือของช่างหลวง หลังคาซ้อน 3 ชั้น 2 ตับ
มีลักษณะสร้างขื่อแปในรูปแบบ “ม้าต่างไหม” กล่าวคือวางขื่อแปไว้บนเสาทั้ง 2 ข้าง ไม่มีเสาตรงกลาง หลังคามุงด้วยไม้ลักษณะแป้นเกล็ด
ลักษณะเด่นคือการประดับตกแต่งด้วยไม้แกะสลักเป็นลวดลายพรรณพฤกษาที่หน้าจั่ว และทวยรับหลังคาเป็นทวยหูช้างสลักรูปเทวดา ยักษ์
และมนุษย์ ภายในวิหาร มีเสากลมปิดทองบนพื้นสีแดง และมีศาสนวัตถุที่ทรงคุณค่าหลายอย่าง ดังนี้
พระประธาน
พระประธานในพระวิหารวัดร้องแง เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ชื่อ “ ศรีสวัสดี สิริวิสุทธะ วิวะมังคะละ สวัสสะติ อะภิวันทะนบ พระรัตนะ โอกาสะมะสะดู”
โดยมีประวัติว่ามีพ่อเฒ่าท้าวพรม ภรรยาพ่อเฒ่าท้าวพรมชื่อนางอุตดี และลูกหลานญาติพี่น้อง “สัมพันธะวงศ์” ทุกคนได้มีจิตศรัทธาที่จะสร้างพระพุทธรูป
จึงได้ทำการประชุมกันแล้วมีมติเป็นเอกฉันท์ว่าจะเดินทางไปหานายหนานบุญส่ง บ้านเสี้ยวทุ่งก้อง เมืองยม อำเภอปัว จังหวัดน่าน เพื่อพากันเดินทางไปนิมนต์ครูบาอินต๊ะ
เจ้าอธิการวัดเฮี้ย ตำบลปัว อำแภอปัว จังหวัดน่าน มาเป็นประธานสงฆ์ พร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์อีก 8 รูป รวมเป็น 9 รูป พร้อมด้วยเจ้าแสนไชยมงคล ท่านท้าวพรม
ชาวบ้านผู้สูงอายุบ้านร้องแง และศรัทธาบ้านต่างๆ โดยคณะสงฆ์ได้ทำการเจริญพระพุทธมนต์ พระปริตตชัยมงคลพร้อมด้วยกับลงมือก่อสร้างพระพุทธรูปซึ่งเป็นพระประธานที่พระวิหารวัดร้องแง
ได้สำเร็จพร้อมทั้งได้มีพิธีการสมโพธิในวันแรม 1 ค่ำ ตรงกับวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ.2471